นักฟุตบอล Major League Soccer สหรัฐอเมริกา ร่วมกันประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวและความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ด้วยการลงไปยืนและชูกำปั้นขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นเวลา 8 นาที 46 วินาที ก่อนที่เกมแรกของการรีสตาร์ทฤดูกาล 2020 จะเริ่มต้นขึ้น ในเกมแรกของการรีสตาร์ทฟุตบอล Major League Soccer หรือ MLS ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างออร์แลนโด ซิตี้ เอสซี กับทีมอินเตอร์ ไมอามี ที่มี เดวิด เบ็คแฮม เป็นเจ ้าของทีม ได้มีนักฟุตบอลของทั้งสองทีมหลายสิบคนในนามกลุ่ม Black Players for Change ร่วมกันลงไปยืนในสนาม โดยในระหว่างก่อนเกมจะเริ่ม ผู้เล่นเหล่านั้นซึ่งสวมเสื้อที่มีข้อความ Black Lives Matter และสโลแกนต่างๆ เช่น Silence is Violence หรือ Black and Proud ได้ชูกำปั้นขึ้นฟ้าเป็นเวลา 8 นาที 46 วินาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวสีถูก เดเรก ชอวิน เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เข่ากดลงบนคอจนติดพื้น และทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ขณะที่นักเตะออร์แลนโดและไมอามีเองก็นั่งคุกเข่าอยู่กลางสนามเช่นกัน นานี อดีตนักเตะทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวถึงการประท้วงครั้งนี้ว่า “มัน
‘ ปีศาจแดง ’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดศึกกับ ‘ สิงโตน้ำเงินคราม ’ เชลซี ขณะที่ ‘ ปืนใหญ่ ’ อาร์เซนอล จะเจอแชมป์เก่า ‘ เรือใบสีฟ้า ’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้หลีกทางให้แก่ฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ลงสนามแข่งขันกันต่อ โดยในคืนวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนเอาชนะนอริช ซิตี้ ได้อย่างสุดระทึกในช่วงท้ายเกมของการต่อเวลาพิเศษ 2-1 จากประตูชัยของแฮร์รี แม็กไกวร์ จากนั้นในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีเกม 3 คู่ที่ลงสนาม ปรากฏว่าอาร์เซนอลได้ดานี เซบายอส ทำประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บให้บุกเฉือนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 ก่อนที่เชลซีจะโชว์ฟอร์มแกร่งต่อเนื่องบุกไปสยบเลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าบุกไปเอาชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดได้ 2-0 ในคู่สุดท้าย ส่วนผลการจับสลากฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ ปรากฏว่าแมนฯ ยูไนเต็ดจะพบกับเชลซี ขณะที่อาร์เซนอลจะเจอกับแมนฯ ซิตี้ โดยทั้งสองคู่จะลงเล่นที่สนามเวมบลีย์ เกมจะมีขึ้นในวันที่ 18 และ 19 กรกฎาคม ก่อนจะชิงชนะเลิศเป็นการปิดม่านฟุตบอลอังกฤษฤดูกาล 2019-2